ศูนย์ปฏิบัติธรรม แห่งที่ ๓๑ จังหวัดบุรีรัมย์


สถานที่สัปปายะ
ใกล้ชิดพระวิปัสสนาจารย์
และวิทยากร มีมากประสบการณ์
ประวัติความเป็นมา โดยสังเขป
สืบเนื่องจาก หลวงพ่อพระครูภาวนาวิหารธรรม วิ.ท่านนิมิตเห็นที่เนินดินซึ่งอยู่ข้างวัดสุขสำราญทางทิศตะวันตก ห่างจากวัดประมาณ ๔๐๐ เมตร ในอดีตเป็นวัดโบราณ มีพระสูงอายุมาสร้างไว้แต่ยังสร้างไม่เสร็จ ท่านจึงได้ปรารถกับพ่อใหญ่ฮ่วน บุญหนัก มัคนายกวัด ว่าท่านมีความประสงค์ที่จะสร้างสถานปฏิบัติวิปัสสนา สำหรับประชาชนในอีสานใต้ ณ ที่เนินดินแห่งนี้ ซึ่งต่อไปจะเป็นสถานที่สร้างพระอริยบุคคล สร้างพระวิปัสสนาจารย์ หลังจากซื้อที่ดิน ทั้งสิ้น ๕ แปลง รวมพื้นที่ประมาณ ๑๔ ไร่ ๒ งาน ได้ ๕ ปี
วันพุธที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีขาลวางศิลาฤกษ์ ใช้เวลาในการก่อสร้าง ๖ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๖๐) โดยมีคุณยอดพงศ์ รามสูต เป็นผู้ถวายการเขียนแบบและควบคุมการก่อสร้าง และ คุณจันทรัตน์ โกศัยดิลก ผู้เป็นเรี่ยวแรงกำลังสำคัญในการจัดทอดผ้าป่า บ้านแมกไม้ และทอดกฐินวัดสุขสำราญร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์ เพื่อหาทุนทรัพย์ในการก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมสวนธรรมโคกระกา จนแล้วเสร็จ เป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งที่ ๓๑ ของจังหวัดบุรีรัมย์ และเริ่มเป็นที่รู้จักทั้งพระภิกษุ และพุทธศาสนิกชน ผู้เพียรฝึกตน มากขึ้นเป็นลำดับ


ทุกเดือน สวนธรรมโคกระกา วัดสุขสำราญ
จะมีการเปิดคอร์สปฏิบัติธรรม โดยมี
หลวงพ่อพระครูภาวนาวิหารธรรม วิ. (เหล็ก จนฺสีโล)
เป็นผู้บอกกรรมฐาน


ปัจจุบัน สวนธรรมโคกระกาประกอบด้วย
๑. ศาลาภาวนาวิหารธรรม เป็นอาคารใหญ่สำหรับปฏิบัติธรรมรวม
๒. ศาลาปฏิบัติธรรมสำหรับพระสงฆ์ และห้องสอบอารมณ์ ๒ ห้อง
๓. กุฏิวิหารธรรม เป็นกุฏิพระวิปัสสนาจารย์ มีกุฏิพระ๒ ห้อง
๔. กุฏิเดี่ยว ๒ ชั้น ๕ หลัง รวมมี ๑๐ ห้องพัก
๕. กุฏิเดี่ยวชั้นเดียว ๑๔ หลัง รวม ๑๔ ห้องพัก
๖. กุฏิพระชั้นเดียว ๑๑ หลัง
๗. กุฏิอุกฤษฎ์ ๑ หลัง
๘. อาคารเรือนแถว ๒ ชั้น มี ๑๐ ห้องพัก
๙. เรือนบุณยกร ๒ ชั้น เป็นอาคารสำนักงาน มี ๖ ห้องพัก
๑๐. โรงอาหาร-โรงครัว
๑๑. โรงจอดรถ
๑๒. ห้องน้ำส่วนกลาง แยกชาย-หญิง จำนวน๒๑ ห้อง
ห้องพักทุกห้องมีห้องน้ำในตัว และทางเดินจงกรม ปัจจุบันสามารถรองรับผู้ปฏิบัติธรรมได้ ๔๘ – ๖๐ รูป / คน




















































